สารอันตรายที่พบได้บ่อยใน make up 😰
สารอันตรายที่มักพบใน Make Up 🤨 หรือเครื่องสำอางนั้น เราอยากให้ทำความเข้าใจเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ แยกส่วนที่ 1 ส่วนที่ห้ามพบหรือผสมลงไปใน Make up ส่วนที่ 2 คือ ผสมที่ไม่สามารถหลีกเลียงผสมหรือใส่ลงไปได้ เพราะเป็นส่วนผสมที่จำเป็น เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต เพียงแต่ว่าต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมไม่เกินตามที่ FDA หรือ อย.กำหนด เพราะหากเกินตามที่กำหนดอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี 😳❗❗❗
.
📢 ส่วนที่ 1 รายการสารอันตรายที่ห้ามใส่ลงไปในส่วนผสมทั้ง Make up และเครื่องสำอาง
.
❌ สารปรอท (Mercury)
- มีคุณสมบัติที่ช่วยปรับผิวให้ขาวขึ้นได้อย่างรวดเร็วจึงเป็นที่นิยม ด้วยกลไกการทำงานยับยั้ง Tyrosinase Enzyme ที่ค่อนข้างแรง ทำให้มีการยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลนินอย่างเห็นได้ชัด ลดฝ้ากระจุดด่างดำลงอย่างรวดเร็ว
- แต่ผลข้างเคียงก็มีความรุนแรงและเกิดความเสียต่อผิวได้เช่น โดยการดูดซึมของสารปรอทที่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายและมีผลต่อระบบประสาทโดยเฉพาะกับเด็ก จึงมีการสั่งห้ามใช้สารดังกล่าวในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือ Make Up ต่างๆ
.
❌ สารตะกั่ว (Lead)
- สารตะกั่วมีความอันตรายสูงมาก ก่อให้เกิดภาวะปวดท้องขั้นรุนแรง มีผลต่อระบบการสร้างเม็ดเลือดแดง
- มักพบในผลิตภัณฑ์ทาริมฝีปาก
.
❌ สารสเตียรอยด์ (Steroid)
- ถูกจัดอยู่ในกลุ่มรักษาอาการแพ้หรือมีปัญหาระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งการใช้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และเภสัชกร
- ด้วยคุณสมบัติที่สามารถกดภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ จึงมีการนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ทาผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน ผิวดีและใสได้ในช่วงแรก หากใช้ไปสักระยะหนึ่งหรือมีการหยุดใช้ ร่างกายจะเกิดภาวะภูมิคุ้มกันทำงานมากกว่าปกติ เพราะร่างกายจะติดเชื้อได้ง่ายจากการกดระบบภูมิคุ้มกันเอาไว้
.
❌ ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)
- เป็นสารที่ให้ผลในการรักษาฝ้ากระที่ดีเช่นเดียวกัน แต่ด้วยการออกฤทธิ์ที่รุนแรงเกินไป ส่งให้เกิดภาวะด่างขาวตามมาได้เช่นเดียวกับสารปรอท
- แต่สารไฮโดรควิโนนนั้นอาการข้างเคียงยังไม่ได้รุนแรงเท่ากับสารปรอท จึงยังมีการใช้รักษาฝ้า กระ อยู่ในปัจจุบัน แต่ต้องในการดูแลของแพทย์เท่านั้น เพื่อเฝ้าระวังการใช้อย่างถูกวิธี
.
❌ กรดวิตามินเอ (Retionic Acid)
- เป็นสารที่ใช้ในการรักษาฝ้า สิว ริ้วรอย มาอย่างยาวนาน แต่ด้วยอาการข้างเคียงที่ทำให้ผิว แสบ แดงร้อน และทำให้ผิวไวต่อแดด จึงถูกห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์ทั่วไป ให้อยู่ใความดูแลของแพทย์เช่นเดียวกัน
- ปัจจุบันมีการพัฒนากรดวิตามินเอ ปรับโครงสร้างต่างๆ เพื่อลดอาการข้างเคียงดังกล่าว และสามารถใส่ลงในเครื่องสำอางได้ อย่างปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องระมัดระวังอาการข้างเคียงเหล่านั้นอยู่ดี
.
📢ส่วนที่ 2 สารที่สามารถก่อการระคายเคืองได้ให้ระมัดระวังในการใช้ และใส่ไม่เกินปริมาณที่ อย.กำหนด
.
⭕ ทัลคัม (Talcum)
- เป็นส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์แป้ง ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบแป้งฝุ่น หรือแป้งอัดแข็ง ด้วยคุณสมบัติที่ให้ความนุ่มลื่น ลดความอับชื้น ลดการเสียดสี จึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบหลัก แต่มีรายงานที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดอยู่แล้ว การสูดดมผงทัลคัมเป็นประจำเคยมีรายงานความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคจริง แต่ด้วยรายงานดังกล่าวนั้นยังไม่ได้เป็นข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ให้จัดอยู่ในกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเท่านั้น ทำให้การใช้แป้งที่มาจากผงทัลคัมนั้น ยังสามารถใช้ได้ตามปกติแต่ให้เพิ่มเติมฉลากสินค้าในการเฝ้าระวังการสูดดมเป็นประจำ การใช้แป้งตลับอัดแข็งจึงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดการสูดดมผงทัลคัมดังกล่าว และลดโอกาสรบกวนระบบทางเดินหายใจได้
.
⭕ สารพาราเบน (Paraben)
- สารพาราเบน สารกันเสียที่เมื่อก่อนนิยมใช้เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์
- แต่พบว่าก่อให้เกิดการระคายเคือง แสบ แดงคัน บริเวณที่ทาได้ และส่งผลต่อระบบฮอร์โมน estrogen ด้วยโครงสร้างของผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน เมื่อใช้ระยะยาวจะส่งให้เกิดภาวะผิดปกติของระบบฮอร์โมน
.
⭕ สารไตรเอทาโนลาไมน์ (Triethanolamine)
- สารไตรเอทาโนลาไมน์นั้น พบในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
- ต้องเลือกใช้สารกลุ่มนี้ที่มีคุณภาพดี ไม่มี DEA ที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เราจึงไม่ค่อยนิยมใช้สารนี้เท่าไหร่ในปัจจุบัน ถ้าหากมีการเลือกใช้ต้องอยู่ในการดูแลของโรงงานที่มีคุณภาพเลือกใช้สารคุณภาพดี และมีปริมาณไม่เกินตามที่ อย.กำหนด
.
⭕สาร PVP (Polyvinyl Pyrrolidone)
- สาร PVP มักพบในสเปรย์ที่ใช้ฉีดเพื่อการตกแต่งทรงผม เพราะให้ความเหนียวเช่นเดียวกับกาว
- อาการข้างเคียง ก่อให้เกิดอาการแสบร้อน อุดตันรูขุมขน ในกลุ่มคนที่มีความบอบบางของหนังศรีษระมากๆ อาจก่อให้เกิดผมร่วงได้
.
⭕ Sodium Lauryl Sulfate – SLS และ Sodium Laureth Sulfate (Sodium Lauryl Ether Sulfate) – SLES
- ทั้ง 2 ตัวเป็นสารทำความสะอาดที่ก่อให้เกิดฟองได้ โดย SLS จะค่อนข้างระคายเคืองกว่า SLES
- สารทั้ง 2 ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ และยังสามารถก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตรงบริเวณที่สัมผัสได้ หากมีการสัมผัสในปริมาณที่มากผิดปกติและเป็นระยะเวลานาน
- แต่ทั้ง 2 ยังคงมีการใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ เพราะการใช้ในความเข้มข้นที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือตามที่ อย.กำหนด จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ แต่หากผู้ใช้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มผิวระคายเคืองง่าย เช่นผิวเด็ก ผิวคนสูงอายุมากๆ อาจจะต้องระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงในการใช้
.
จากความรู้สารอันตรายหรือสารที่ก่อการระคายเคืองทั้ง 2 ส่วนนี้ เราหวังว่าจะช่วยทำให้ทุกคนมีความรู้และตัดสินใจในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น 💪🔥